วันที่ 10 ตุลาคม เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย รายงาน โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยให้ความเห็นเกี่ยวกับ “กฎบังคับในเรื่องห้ามสวมหน้ากาก” และสถานการณ์ล่าสุดในฮ่องกงเมื่อวันที่ 4 เดือนตุลาคม รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ประกาศ
“กฎบังคับในเรื่องห้ามสวมหน้ากาก” โดยอาศัยอำนาจจาก “กฎระเบียบในวาระฉุกเฉิน” มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เดือนตุลาคม กฎบังคับดังกล่าวห้ามผู้ชุมนุมสวมใส่หน้ากาก ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการระบุตัวตนสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ละเมิดถือว่าทำผิดกฎหมาย
ความรุนแรงในฮ่องกงยืดยาวมาเป็นเวลามากกว่า 4 เดือน วันที่ 1 เดือนตุลาคม กลุ่มคนใช้ความรุนแรงที่สวมหน้ากากได้รวมตัวกันอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่ต่างๆ ของฮ่องกง ปิดกั้นการจราจรในบริเวณกว้าง ทำลายร้านค้า รถไฟใต้ดินและสาธารณูปโภคอื่นๆ อีกทั้งได้จุดไฟเผา โยนระเบิดขวดจำนวนมาก โจมตีสถานที่ราชการและสถานีตำรวจ ทำร้ายเจ้าหน้าตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างบ้าคลั่ง ทำร้ายประชาชนทั่วไปอย่างไม่เลือกหน้า พวกเขาจงใจสร้างเหตุการณ์นองเลือดขึ้นมา ความรุนแรงได้ยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการท้าทายกฎหมายอย่างรุนแรง ทำลายความสงบสุขของสังคมฮ่องกง และเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนทั่วไป
ในปัจจุบัน ความอันตรายที่ใหญ่ที่สุดที่ฮ่องกงกำลังเผชิญอยู่ก็คือ การใช้ความรุนแรงและการไม่เคารพกฎหมาย ถึงเวลาแล้วที่ต้องยุติความรุนแรงและความวุ่นวายด้วยท่าทีที่ชัดเจนมากขึ้นและวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในสถานการณ์อย่างนี้ รัฐบาลเขตปกครองพิเศษได้บังคับใช้ “กฎบังคับในเรื่องห้ามสวมหน้ากาก” เป็นมาตรการที่ชอบด้วยกฏหมาย ชอบธรรมและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หลายประเทศในโลกก็ได้บังคับใช้กฎหมายห้ามปิดบังใบหน้าเช่นกัน การบังคับใช้กฎบังคับดังกล่าวในฮ่องกง มิได้ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกง รวมทั้งสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมด้วย
รัฐบาลส่วนกลางของประเทศจีนสนับสนุน แคร์รี หลั่ม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานตุลาการในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดใช้ความรุนแรงทั้งปวง โดยเฉพาะแกนนำกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง ตลอดจนผู้วางแผนและสั่งการที่อยู่เบื้องหลัง
เป็นที่ต้องชี้ให้ทราบว่า ความผันผวนที่มาจากการต่อต้านการแก้ไขกฎหมายในฮ่องกงได้เปลี่ยนตัวไปอย่างสิ้นเชิง กำลังพัฒนาเป็น “การปฏิวัติสี” โดยได้รับการแทรกแซงจากกลุ่มอิทธิพลภายนอก กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีน ได้ใช้ประชาธิปไตยและเสรีภาพเป็นข้ออ้าง เพื่อทำลายหลักการพื้นฐานของ “หนึ่งประเทศสองระบบ” บ่อนทำลายอธิปไตยและความบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีน ซึ่งฝ่ายจีนคัดค้านอย่างเด็ดขาด
กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนยังได้สมคบกับกลุ่มอิทธิพลภายนอก เผยแพร่ข่างลือ บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อวัตถุประสงค์ที่มิอาจเปิดเผยของตน นักการเมืองประเทศไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน ซึ่ง เป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ ฝ่ายจีนหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาฮ่องกง ใช้ความระมัดระวัง ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อมิตรภาพจีน-ไทย
สะเทือนถึงฮานอย แผ่นดินไหวลาว 6.1 ริกเตอร์ กระทบถึงฝั่งเวียดนาม
วันนี้ได้มีรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.1 ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสปป.ลาว ซึ่งส่งผลถึงประเทศไทย โดยสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานศูนย์กลางแผ่นดินไหว ขนาด 6.1 มีความลึกจากผิวดินเพียงแค่ประมาณ 10 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 06.50 น. ของเช้าวันนี้นั้นส่งผลสะเทือนจนรู้สึกได้ไปถึงกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้ผู้คนในจังหวัดเชียงใหม่รู้สึกแตกตื่น เคราะห์ดีที่ไม่มีรายงานเกิดความเสียหายร้ายแรง ขณะที่แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวรู้สึกได้ไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวกว่า 700 กิโลเมตร อีกทั้งผู้คนบนตึกสูงในกรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม ก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวเช่นกัน
ทั้งนี้ สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ ตรวจวัดพบเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ประมาณ 31 กิโลเมตร และก่อนหน้านั้น ได้เกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้ง ซึ่งวัดความรุนแรงได้ ขนาด 4.6 และ 5.7 ริกเตอร์ ในบริเวณเดียวกัน
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จะเห็นว่าลักษณะของฝนเริ่มตกหนักขึ้น แรงขึ้น และมีลมแรงขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าในช่วงไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อจากนี้ ศูนย์กลางของพายุจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวโตเกียวและก็เคลื่อนไปทางเหนือขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยตอนนี้ลมยังไม่แรงมาก ยังสามารถที่จะเดินทางออกจากสนามบินนาริตะได้ อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินของตนเป็นเที่ยวบินรองสุดท้าย และยังมีอีกเที่ยวบินหนึ่งคือเวลาประมาณ 12.00 น.ที่การบินไทยจะพาคนไทยหรือผู้โดยสารทั้งหมดออกจากสนามบินนาริตะ ส่โดยตอนนี้สนามบินได้ห้ามเครื่องบินลงจอดแล้ว เพราะลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ และเสี่ยงจะเกิดอันตราย
แฟนเพจ macthepitbull รายงาน กลุ่มองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ในรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา พบลูกหมาตัวสีน้ำตาลถูกทิ้งอยู่กับหมาใหญ่ ที่น่าประหลาดใจแต่แรกพบคือ บริเวณกลางหน้าผากของมันมีหางขนาดเล็กงอกออกมา ทีมช่วยเหลือจึงตั้งชื่อให้มันว่า นาร์วาล (Narwhal) ตามชื่อของวาฬนาร์วาลที่มีเขาแหลมยาวงอกออกมากลางหัว เพื่อให้พ้องกับลักษณะพิเศษของมัน นอกจากนี้เจ้านาร์วาลน้อยสี่ขา ยังได้ได้รับฉายาว่าเจ้ายูนิคอร์นน้อยอีกด้วย
จากการตรวจร่างกายพบว่าหางที่งอกออกมาผิดที่ผิดทางไม่ได้เชื่อมต่อกับอวัยวะใดของร่างกาย ซึ่งหากในอนาคตมันส่งผลเสียต่อการทำงานของร่างกายก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง แต่ตอนนี้เจ้านาร์วาลยังแข็งแรงดี อีกทั้งยังร่าเริงมาก ไม่เชื่อดูจากคลิปด้านล่างได้เลย
อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วแพทย์ในหลายๆ ประเทศจะไม่แนะนำให้ผู้หญิงทำเด็กหลอดแก้วหากอายุเกิน 42 ปีขึ้นไป เพราะมีโอกาสสำเร็จเพียง 2% เท่านั้น
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป