กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการจัดทำ มาตรการพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 สำหรับบรรดาเกษตรกร และประชาชน ระหว่างเดือนธันวาคม มกราคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, มาตรการพิเศษ – (22 ธ.ค. 2564) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมใจส่งสุขปีใหม่ ปี 2565 มอบให้เกษตรกรและประชาชน โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดจัดทำโครงการมอบของขวัญให้แก่เกษตรกรและประชาชน ภายใต้ “โครงการส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ. 2565” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม 2564 – มกราคม 2565 เพื่อแสดงออกถึงไมตรีจิต ความสัมพันธ์ และความร่วมมืออันดีในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรไปพร้อมกันทั้งภาคประชาชน เกษตรกร ภาครัฐและเอกชน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น
โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้เพิ่ม และลดรายจ่ายครัวเรือน ให้กับเกษตรกรและประชาชน ในสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และเพื่อส่งมอบความสุข จากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกษตรที่สวยงามพร้อมกับได้รับความรู้ทางด้านการเกษตร ประกอบด้วย 2 โครงการ ดังนี้
1. เพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มี 2 กิจกรรมย่อย คือ
1) เปิดสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรให้ประชาชนเข้าชมฟรี/ลดค่าบริการในช่วงเทศกาล เป้าหมายประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 56,666 คนประกอบด้วย
– เปิดศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต้อนรับนักท่องเที่ยว เปิดสถานที่ให้เกษตรกรเข้ามาจำหน่ายสินค้า เปิดให้เยี่ยมชมนิทรรศการวันดินโลก ชมสวนดอกไม้ และทุ่งทานตะวัน
– ลดค่าบริการเข้าชมฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค จังหวัดสระบุรี
– เปิดพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนเข้าชม และกิจกรรมฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ พิพิธภัณฑ์กษัตริย์เกษตร และเส้นทางสืบสาน รักษาต่อยอด Wisdom Farm
– เปิดแหล่งท่องเที่ยวสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ประชาชนเข้าชมฟรี
– เปิดสถานที่ศูนย์วิจัยการเกษตรให้เที่ยวชม จำนวน 12 แห่ง
– แหล่งท่องเที่ยวด้านปศุสัตว์ จำนวน 6 แห่ง
– แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร จำนวน 95 แห่งเป็นต้น
2)เปิดสถานที่ราชการ ปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยว เข้าเยี่ยมชมช่วงเทศกาล และแจกพันธุ์ไม้ เป้าหมายประชาชนและเกษตรกรได้รับประโยชน์ จำนวน 116,450 คนประกอบด้วย
– จุดบริการศูนย์วิจัยข้าว 3 แห่ง (จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่และสกลนคร)
– ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว 2 แห่ง (จังหวัดพัทลุงและลำปาง)
– โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ 1 แห่ง (จังหวัดชุมพร)
– โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา 6 แห่ง (จังหวัดลำปาง (2 แห่ง) กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และสุพรรณบุรี) อ่างเก็บน้ำ 10 แห่ง (จังหวัดชัยภูมิ กาฬสินธุ์ นครราชสีมา สุรินทร์ นครนายก (3 แห่ง) ระยอง อุบลราชธานีและระนอง)
– โครงการชลประทาน 3 แห่ง (จังหวัดนครศรีธรรมราช (2 แห่ง) และบึงกาฬ)
– ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด 39 แห่ง (จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ พิจิตร เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร อุดรธานี หนองคาย นครพนม ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชลบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ตราด พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี สมุทรปราการ ราชบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส สุพรรณบุรี น่าน และลำพูน)
– สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน ปากช่อง คทช. จำกัด จังหวัดนครราชสีมา
– ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 2 แห่ง (จังหวัดยโสธรและหนองคาย) และสำนักงานปศุสัตว์อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
– สำนักคุ้มครองพันธุ์พืชกรุงเทพมหานคร สำนักวิจัยพัฒนาการเกษตรเขต 4 แห่ง (จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี จันทบุรี และชัยนาท)
– ด่านตรวจพืชท่าอากาศยาน 2 แห่ง (จังหวัดเชียงราย 2 แห่ง)
Credit : joseluisgalar.com aquimontserrat.com vawa4all.org altamiraweb.info